Pages

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Nuno Bettencourt : The Last Guitar Hero

Nuno Bettencourt!!! คุณอาจสงสัยว่าเขาเป็นใคร ? เอาเป็นว่าถ้าเอ่ยชื่อ "More Than Words" บทเพลงบัลลาดอมตะนิรันดร์กาลจากอัลบั้ม Pornograffitti ของวง Extreme ที่ยังได้รับความนิยมตลอดมา แม้ทุกวันนี้รายการวิทยุในบ้านเรายังเปิดออกอากศให้ได้ยินกันอยู่ทุกวัน และก็เป็นบทเพลงเดียวกันกับที่เคยถูกวงป็อบยอดนิยมอย่าง West Life นำไปคัฟเวอร์จนโด่งดัง ( อีกครั้ง )คงนึกกันออกแล้วใช่ไหม ? ก็ Nuno คนนี้นี่เองที่เป็นเจ้าของและเป็นผู้แต่งเพลงนี้จนประสบความสำเร็จชนิดที่ว่าเกิดเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญหน้าหนึ่งของวงการร็อคเลยทีเดียว

More Than Words จะเป็นเพลงบัลลาดหวานๆที่นับได้ว่าเป็นซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของวง โดยสามารถก้าวขึ้นไปติดอันดับ 1 บนช้าต Billboard อันดับ 2 ช้าตเพลงยอดนิยมของอังกฤษและติดอันดับท็อปช้าตในเกือบทุกประเทศทั่วโลก แต่วง Extreme คือวงดนตรีที่มีพื้นฐานของความร็อค โดยมีส่วนผสมของดนตรีฮาร์ดร็อคและฟังค์กี้เป็นส่วนสำคัญ

แม้ว่าเราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Nuno คือแกนนำคนสำคัญของ Extreme เพราะนอกจากจะเป็นมือกีตาร์แล้ว เขายังมีบทบาทในด้านของการประพันธ์เพลง เรียบเรียงดนตรี ดูแลกำกับทิศทางของวง รวมถึงการรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวงเองด้วย จุดนี้เองที่ทำให้ Nuno ได้รับการยอมรับในฐานะนักกีตาร์ฝีมือระดับพระกาฬและเป็นนักดนตรีที่มากด้วยความสามารถคนหนึ่ง

Extreme ออกผลงานมาได้ 4 ชุดในช่วงระหว่างปี 1989-1995 หลังจากนั้นจึงประกาศสลายวงในปี 1996 โดยที่ Nuno ได้ออกมาทำผลงานเดี่ยวของตัวเองในชุด Schizophonic ภายใต้สังกัดA&M Records จากนั้นจึงมาทำโปรเจ็กต์ส่วนตัวในชื่อว่า Mourning Widows ซึ่งมีผลงานออกมา 2ชุด จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันที่ Nuno กำลังง่วนอยู่กับการทำงานในอีกโปรเจ็กต์หนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าPopulation 1 โดยมีผลงานอัลบั้มออกมาแล้ว 1 ชุด กับผลงาน EP ชุดใหม่อีก 1 ชุด และกำลังจะมีผลงานอัลบั้มชุดที่ 2 ตามมาอีกในอนาคตอันใกล้นี้

ความฉกาจฉกรรจ์ในฝีมือการเล่นกีตาร์ของ Nuno Bettencourt นั้นเป็นที่ยอมรับกันมานานแล้ว ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่เขาสามารถมีกีตาร์ที่เป็นโมเดลซิกเนเจอร์ของตัวเองตั้งแต่เมื่อครั้งที่ออกผลงานเพียงชุดแรกเท่านั้น ซึ่งการที่มือกีตาร์สักคนหนึ่งจะมีกีตาร์ที่เป็นโมเดลของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมีกันได้ง่ายๆ กีตาร์ตัวดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยบริษัทกีตาร์ชื่อดังของอเมริกา Washburn ในชื่อรุ่นว่าN4 Nuno Bettencourt Signature Model ที่ Nuno เป็นผู้ร่วมออกแบบด้วยตัวเอง

Nuno Bettencourt เขาคือหนึ่งในมือกีตาร์ขวัญใจคนดนตรีและมือกีตาร์ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่ Nuno ได้กลายเป็นขวัญใจคนทั้งประเทศไปแล้ว แม้กระทั่งในประเทศอเมริกายังเรียก Nuno ว่าเป็น "The Last Real Guitar Hero" ( หรือกีตาร์ฮีโร่คนสุดท้าย )!!! สำหรับในประเทศไทย Nuno Bettencourt สามารถกุมหัวใจแฟนเพลงและเป็นฮีโร่ในดวงใจให้กับนักดนตรีชาวไทยมากมาย ช่วงระหว่างทศวรรษ '90 Nuno Bettencourt เป็นมือกีตาร์ที่เป็นนายแบบขึ้นปกหรือมีเรื่องราวของเขาลงในนิตยสารดนตรีในบ้านเราแทบทุกฉบับ ทั้ง Music Express, Crossroad, Quiet Storm, บันเทิงคดี และอีกมากมาย

สำหรับนักฟังเพลงหรือนักดนตรีที่มีอายุตั้งแต่ 28 ปีขึ้นไปหรือผู้ที่ชื่นชอบบทเพลงในยุค '90ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Nuno และวง Extreme และสำหรับเด็กรุ่นใหม่หลายคนอาจจะเคยได้รับรู้เรื่องราวของชายคนนี้มาบ้างจากตำนานที่ถูกบอกเล่าต่อๆกันมา หรือหลายคนที่กำลังศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับดนตรีย้อนยุคทุกคนจะต้องรู้จักและคุ้นเคยกับชื่อ Nuno Bettencourt นี้เป็นอย่างดี

ผลงานของ Nuno Bettencourt

ผลงานของ Nuno Bettencourt กับวง Extreme

Extreme (1989)

ผลงานชุดแรกของ Extreme มีซาวด์ดนตรีออกไปทางฟังค์/ร็อค และมีกลิ่นอายดนตรีในแบบ Van Halen ที่ทางวงได้รับอิทธิพลมา และต้องถือว่าการเล่นกีตาร์ของ Nuno ในชุดนี้เป็นจุดเด่นไฮไลท์ของงาน

Pornograffittii (1990)

ผลงานลำดับที่ 2 ที่ยังคงเต็มไปด้วยสีสันดนตรีทุกรสชาติ ตัวดนตรีและงานกีตาร์เข้มข้น มีทั้งความหวานและความมันส์ เพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในชุดนี้ต้องยกให้กับบทเพลงบัลลาดอย่าง "More Than Word" และ "Hole Hearted" โดยที่ More Than Words ได้รับความนิยมท่วมท้นติดอันอับ 1 ช้าต Billboard และอันดับ 2 ช้าตเพลงอังกฤษ และยังไม่นับที่ติดอันดับท็อปช้าตในอีกหลายๆประเทศทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย ที่เรายังสามารถได้ยินเพลงนี้ถูกเปิดออกอากาศทางรายการวิทยุอยู่ทุกวัน!!! และที่สำคัญคือเพลงนี้ยังได้รับการนำเอาไปคัฟเวอร์ใหม่อีกครั้งโดยวงป็อบยอดนิยมอย่าง West Life ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ส่วน Hole Hearted นั้นก็สามารถขึ้นอันดับ1 Billboard และยังมีเพลงเด่นอื่นๆอีกมากมายในชุดนี้ที่ได้รับความนิยม อาทิ Decadence Dance, Song For Love และ Get The Funk Out เป็นต้น

III Sides To Every Story (1992)

ผลงานชุดที่ 3 ของ Extreme เป็นผลงานที่เข้มข้นทั้งเนื้อหาและดนตรี มีทั้งเพลงบัลลาดเพราะๆและบทเพลงที่แฝงไว้ด้วยปรัชญา ชุดนี้นอกจากจะเล่นกีตาร์ เปียโน คีย์บอร์ด เพอร์คัสชั่นและร้องเองแล้วNuno ยังรับหน้าที่สำคัญอีกอย่างคือการก้าวขึ้นมาเป็นโปรดิวเซอร์เอง และยังแสดงความสามารถในการประพันธ์และเรียบเรียงสกอร์เพลงสำหรับบรรเลงกับวงออร์เคสตร้าด้วยตัวเองอีกด้วย จึงถือได้ว่าเป็นผลงานชุดหนึ่งที่ Nuno ได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ เพลงโดดเด่นในชุดนี้ได้แก่ Rest In Peace, Stop The World, Tragic Comic, Warheads และ Seven Sundays เป็นต้น

Waiting For The Punchline (1995)

ผลงานชุดสุดท้ายในนาม Extreme เป็นงานที่มีซาวด์ดิบๆในแบบ Led Zeppelin และบันทึกเสียงกันในแบบ Live Recording หลังประกาศสลายวง Nuno ก็ออกไปทำงานเดี่ยวของตัวเอง

Nuno Bettencourt Schizophonic

Schizophonic เป็นงานเดี่ยวของ Nuno ที่มีสีสันของดนตรีทีหลากหลาย และฉายให้เห็นอัจริยภาพทางดนตรีที่เจนจัดรอบด้านของ Nuno ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลงเอง เล่นดนตรีเอง และร้องเอง

Nuno Bettencourt กับโปรเจ็กต์ Mourning Widows

Nuno ออกผลงานกับโปรเจ็กต์นี้ 2 ชุดคือในปี 1999 กับชุด Mourning Widows และในปี 2000 กับชุด Furnished Souls For Rent ลักษณะของผลงานโดยรวมออกไปทางฮาร์ดร็อค ฟังค์ร็อค ผสมผสานด้วยกลิ่นอายของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ

ผลงานล่าสุดกับวง Population 1

Population 1 เป็นโปรเจ็กต์ล่าสุดของ Nuno Bettencourt ออกผลงานชุดแรกในชื่อชุด Population 1ในปี 2002 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยเฉพาะ Nuno นั้นในสายตาคนญี่ปุ่นเขาคือมือกีตาร์ฮีโร่อันดับต้นๆและเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมในหมู่นักฟังเพลงและนักดนตรีชาวญี่ปุ่นอย่างเหนียวแน่น และล่าสุดปลายปี 2004 Nuno เพิ่งออกผลงาน EP ในนามPopulation 1 อีก 1 ชุดในชื่อว่า Sessions From Room # 4 ผลงานที่จะทำให้เขากลับมาเป็นที่นิยมในหมู่มือกีตาร์ในอเมริกาได้อีกครั้ง

บทพิสูจน์ความ เจ๋งของ Nuno!!!

2004 อันดับ 7 "Best Guitarist" จากนิตยสาร Young Guitar ประเทศญี่ปุ่น
2002 อันดับ 5 "Best Guitarist" จากนิตยสาร Young Guitar ประเทศญี่ปุ่น
2000 อันดับ 7 "Best Guitarist" จากนิตยสาร Young Guitar ประเทศญี่ปุ่น
1999 อันดับ 18 "Best Guitarist" จากนิตยสาร Young Guitar ประเทศญี่ปุ่น
1996 อันดับ 5 "Best Guitarist" และ "Best Group" (Extreme) จากนิตยสาร Young Guitarประเทศญี่ปุ่น
1994 อันดับ 3 "Best Guitarist" และ "Best Group" (Extreme) จากนิตยสาร Young Guitarประเทศญี่ปุ่น

1993

  • รางวัล "MVP" หรือ Most Valuable Player จากนิตยสาร Guitar World เฉือนชนะคู่แข่งอย่างJoe Satriani, Eddie Van Halen, Slash และ Eric Clapton

  • รางวัล "Best Rock Guitar", "Best Rock Guitar Album" (ชุด III Sides), "Best Guitar Solo" จากนิตยสาร Guitar World

1992

  • รางวัล "Top Of The Rock", "Song Writer Of The Year", "Solo Of The Year" และ"Guitar LP Of The Year" จากนิตยสาร Guitar For The Practicing Musician ของอเมริกา

  • รางวัล "New Talent" (มือกีตาร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม), "Best Rock Guitarist" และรางวัลอันดับ 2 สาขามือกีตาร์ "Acoustic Fingerstyle", อันดับ 3 สาขา "Metal" จากนิตยสารGuitar Player ของอเมริกา

  • อันดับ 2 "Best Guitarist", อันดับ 1 "Best Guitar Solo" (เพลง Warhaeds), อันดับ 1 "Best Guitar Riff" (เพลง Cupid's Dead) และรางวัล "Best Album" (จากชุด III Sides To Every Story) และอันดับ 2 "Best Group" จากการจัดของนิตยสาร Young Guitar ประเทศญี่ปุ่น

  • รางวัล "Act of the Year", "Outstanding Rock Single on a Major Label", Outstanding Pop Single on a Major Label", Outstanding Song/Song Writer" และ "Outstanding Instrumentallist"

  • รางวัล "Guitarist of the Year" จากนิตยสาร Metal Edge

1991 Best Guitarist และ Outstanding Rock LP on a Major Label จากรายการ Boston Music Awards

  • 28 พฤษภาคม More Than Words ขึ้นอันดับ 1 MTV

  • 8 มิถุนายน More Than Words ขึ้นอันดับ 1 ช้าต Billboardในอเมริกาและช้าตเพลงในประเทศอื่นๆทั่วโลกรวมถึงอิสราเอลและฮอลล์แลนด์

1989 ตำแหน่ง "Rising Star" (วงดนตรีดาวรุ่ง) จากรายการ Boston Music Awards
1988 ตำแหน่ง Outstanding Hard Rock Act จาก Boston Music Awards
1987 ตำแหน่ง Outstanding Hard Rock Act จาก Boston Music Awards

ที่มาจาก : www.guitarthai.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น