ลังจากหายหน้าหายตาไปนาน เพราะเน็ตไม่เป็นใจ คราวนี้มาแนะนำมือกีตาร์ฮีโร่ที่ถือไ้ด้ว่า เป็น Idol ของใครหลายๆคน ด้วยการ Speed Picking ที่รวดเร็ว การ arpeggio ที่แพรวพราวไม่ซ้ำใคร และความบ้าคลั่งของเขาบนเวที ผมว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเขาคนนี้แน่นอนครับ Yngwie Malmsteen ครับ
ชื่อเต็ม : ลาร์ โยฮันน์ อิงเวย์ ลานเนอร์บัค
วันเกิด : 30 มิถุนายน 1963
เกิดที่ : กรุงสตอล์คโฮม ประเทศสวีเดน
อิง เวย์ มาลม์สตีน นับเป็นมือกีต้าร์แนวฮาร์ดร็อค ที่มีเทคนิคยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งใน ทศวรรษ 80 เขาผนวกเทคนิคเฉพาะตัวขึ้นที่เกิดจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก กับแนวเพลงคลาสสิคที่เขาหลงไหลอย่างเพลงของ บ๊าค, บีโธเฟ่น, และพากานินี่ เพลงที่อิงเวย์ มาลม์สตีน แต่งจะมีเอกลักษณ์ในการรวมเอาเพลงแนวบาโร้ค และ เพลงแบบกอธิคเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งการเล่นโซโล่ที่รวดเร็ว งานของเขาถือได้ว่าเป็นการพลิกโฉมวงการกีต้าร์เฮฟวี่เมทัล อย่างแท้จริง อัลบั้มแรกของอิงเวย์ชื่อว่า Rising Force เป็นเพลงบรรเลงเกือบทั้งหมด อัลบั้มชุดนี้เป็นงานที่จุดประกาย ให้เกิดปรากฏการณ์ ที่นักกีต้าร์หลายคนในยุคทศวรรษที่ 80 เรียกว่า เทคนิคการเล่นกีตาร์แบบ "ชเร็ดดิ้ง" ของอิงเวย์เป็นเทคนิคที่เน้นความเร็ว ที่เร็วจนเกือบจะเป็นไปไม่ได้ อิงเวย์ออกอัลบั้มมาหลายชุด
ในทศวรรษ 80 แต่เพลงในแต่ละชุดใช้เทคนิคที่ไม่ต่างจากในอัลบั้ม Rising Forceเท่าใดนัก ทำให้นักวิจารณ์โจมตีอิงเวย์ ว่าไม่มีพัฒนาการทางดนตรี ทั้งยังมีผู้วิจารณ์ว่า อิงเวย์เป็นศินปินอีโก้จัด ที่เอาแต่เล่นดนตรีน่าเบื่อ เน้นเทคนิคเกินไป จนเพลงฟังดูเหมือนทำจากเครื่องจักรกล ไร้ซึ่งอารมณ์ และความรู้สึก
แต่ อิงเวย์ก็โต้ว่า เขาเล่นดนตรีแนวที่เขารัก จึงไม่คิดที่จะพัฒนาไปเล่นแนวอื่นอีก และความรักของเขาที่มีต่อเพลง ยังได้ถูกถ่ายทอดลงในงานของเขาเป็นอย่างดี ทั้งยังบอกว่า คนที่เลียนแบบเขาต่างหาก ที่ทำได้ไม่ดีเข้าขั้นมาตรฐาน ทำให้เพลง กลายเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับให้มือกีต้าร์ โชว์เทคนิค จนลืมองค์ประกอบอื่น ๆ ของเพลงไป
ช่วงปลายทศวรรษ 80 แฟนเพลงเมทัลก็เลิกนิยมอิงเวย์ แม้แต่แฟนเพลงที่เป็นศิลปินอยู่ในวงการเดียวกัน ซึ่งเคยติดตามผลงานเขามาตลอด ยังเบื่อเขา แถมยังเลิกที่จะพยายาม ทำความเข้าใจเพลงของเขาอีกต่อไป เนื่องจากกว่าจะเล่นได้แบบเขา จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนนานเกินไป จากนั้นก็ถึงยุคตกต่ำของอิงเวย์ เกิดเหตุสะเทือน
ใจกับเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หรือเรื่องเศร้าในครอบครัว แต่อิงเวย์ก็ยังมีมานะ กลับมาสร้างผลงานอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาสังกัดค่ายอิสระ แต่แนวเพลงยังคงเป็นแนวนีโอคลาสสิกเช่นเดิม
อิงเวย์ มัลสตีน สมัยเด็กเป็นเด็กเกเร จนคุณแม่พยายาม ให้เขาเล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก เพื่อให้หนทางให้เขาได้ระบายออก แต่ก็ไม่สำเร็จในช่วงแรก เพราะเขาไม่สนใจดนตรีเลย แต่พออิงเวย์อายุได้ 7 ปีเขาก็ได้ดูรายการพิเศษ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ จิมมี่ เฮนดริกซ์ ในรายการนั้น มีเทปบันทึกการแสดงสดครั้งที่ จิมมี่ เฮนดริกซ์ เผากีต้าร์บนเวที อิงเวย์จึงเกิดหลงใหลในกีต้าร์ทันที เขาเริ่มหัดเล่นเพลงของ จิมมี่ เฮนดริกซ์ และ Deep Purple แนวการเล่นของ ริทชี่ แบล็คมอร์ มือกีต้าร์ของ Deep Purple ทำให้อิงเวย์สนใจเพลงคลาสสิก การที่พี่สาวของอิงเวย์แนะนำให้เขาได้รู้จักเพลงของ บ๊าค บีโธเฟ่น วิวัลดี้ และ โมซาร์ต ถือเป็นการเปิดโลกทรรศน์ทางดนตรีใหม่ ๆ ให้เขา
ชื่อเต็ม : ลาร์ โยฮันน์ อิงเวย์ ลานเนอร์บัค
วันเกิด : 30 มิถุนายน 1963
เกิดที่ : กรุงสตอล์คโฮม ประเทศสวีเดน
อิง เวย์ มาลม์สตีน นับเป็นมือกีต้าร์แนวฮาร์ดร็อค ที่มีเทคนิคยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งใน ทศวรรษ 80 เขาผนวกเทคนิคเฉพาะตัวขึ้นที่เกิดจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก กับแนวเพลงคลาสสิคที่เขาหลงไหลอย่างเพลงของ บ๊าค, บีโธเฟ่น, และพากานินี่ เพลงที่อิงเวย์ มาลม์สตีน แต่งจะมีเอกลักษณ์ในการรวมเอาเพลงแนวบาโร้ค และ เพลงแบบกอธิคเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งการเล่นโซโล่ที่รวดเร็ว งานของเขาถือได้ว่าเป็นการพลิกโฉมวงการกีต้าร์เฮฟวี่เมทัล อย่างแท้จริง อัลบั้มแรกของอิงเวย์ชื่อว่า Rising Force เป็นเพลงบรรเลงเกือบทั้งหมด อัลบั้มชุดนี้เป็นงานที่จุดประกาย ให้เกิดปรากฏการณ์ ที่นักกีต้าร์หลายคนในยุคทศวรรษที่ 80 เรียกว่า เทคนิคการเล่นกีตาร์แบบ "ชเร็ดดิ้ง" ของอิงเวย์เป็นเทคนิคที่เน้นความเร็ว ที่เร็วจนเกือบจะเป็นไปไม่ได้ อิงเวย์ออกอัลบั้มมาหลายชุด
ในทศวรรษ 80 แต่เพลงในแต่ละชุดใช้เทคนิคที่ไม่ต่างจากในอัลบั้ม Rising Forceเท่าใดนัก ทำให้นักวิจารณ์โจมตีอิงเวย์ ว่าไม่มีพัฒนาการทางดนตรี ทั้งยังมีผู้วิจารณ์ว่า อิงเวย์เป็นศินปินอีโก้จัด ที่เอาแต่เล่นดนตรีน่าเบื่อ เน้นเทคนิคเกินไป จนเพลงฟังดูเหมือนทำจากเครื่องจักรกล ไร้ซึ่งอารมณ์ และความรู้สึก
แต่ อิงเวย์ก็โต้ว่า เขาเล่นดนตรีแนวที่เขารัก จึงไม่คิดที่จะพัฒนาไปเล่นแนวอื่นอีก และความรักของเขาที่มีต่อเพลง ยังได้ถูกถ่ายทอดลงในงานของเขาเป็นอย่างดี ทั้งยังบอกว่า คนที่เลียนแบบเขาต่างหาก ที่ทำได้ไม่ดีเข้าขั้นมาตรฐาน ทำให้เพลง กลายเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับให้มือกีต้าร์ โชว์เทคนิค จนลืมองค์ประกอบอื่น ๆ ของเพลงไป
ช่วงปลายทศวรรษ 80 แฟนเพลงเมทัลก็เลิกนิยมอิงเวย์ แม้แต่แฟนเพลงที่เป็นศิลปินอยู่ในวงการเดียวกัน ซึ่งเคยติดตามผลงานเขามาตลอด ยังเบื่อเขา แถมยังเลิกที่จะพยายาม ทำความเข้าใจเพลงของเขาอีกต่อไป เนื่องจากกว่าจะเล่นได้แบบเขา จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนนานเกินไป จากนั้นก็ถึงยุคตกต่ำของอิงเวย์ เกิดเหตุสะเทือน
ใจกับเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หรือเรื่องเศร้าในครอบครัว แต่อิงเวย์ก็ยังมีมานะ กลับมาสร้างผลงานอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาสังกัดค่ายอิสระ แต่แนวเพลงยังคงเป็นแนวนีโอคลาสสิกเช่นเดิม
อิงเวย์ มัลสตีน สมัยเด็กเป็นเด็กเกเร จนคุณแม่พยายาม ให้เขาเล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก เพื่อให้หนทางให้เขาได้ระบายออก แต่ก็ไม่สำเร็จในช่วงแรก เพราะเขาไม่สนใจดนตรีเลย แต่พออิงเวย์อายุได้ 7 ปีเขาก็ได้ดูรายการพิเศษ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ จิมมี่ เฮนดริกซ์ ในรายการนั้น มีเทปบันทึกการแสดงสดครั้งที่ จิมมี่ เฮนดริกซ์ เผากีต้าร์บนเวที อิงเวย์จึงเกิดหลงใหลในกีต้าร์ทันที เขาเริ่มหัดเล่นเพลงของ จิมมี่ เฮนดริกซ์ และ Deep Purple แนวการเล่นของ ริทชี่ แบล็คมอร์ มือกีต้าร์ของ Deep Purple ทำให้อิงเวย์สนใจเพลงคลาสสิก การที่พี่สาวของอิงเวย์แนะนำให้เขาได้รู้จักเพลงของ บ๊าค บีโธเฟ่น วิวัลดี้ และ โมซาร์ต ถือเป็นการเปิดโลกทรรศน์ทางดนตรีใหม่ ๆ ให้เขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น