ประวัติ Steve Vai
เกิดเมื่อ 6 มิถุนายน 1960 ณ.Long Island, New Yorkเริ่ม เรียนกีต้าร์อย่างจริงจังเมื่ออายุ 13 กับ Joe Satriani จากนั้นไปศึกษาด้านดนตรีที่ Berklee School ใน Boston และย้ายมาอยู่ที่ LAในปี 1979 เพื่อเป็นนักดนตรีในวงดนตรีของ Frank Zappa ออกโซโลอัลบั้มแรก Flex-able [1984]และ ในปี 1985เข้าไป แทนที่ Yngwie Malsteenใน AlcaTrazz ซึ่ง มี Graham Bonnet เป็นนักร้องนำ( อดีต นักร้องนำวง RainBow) ออกอัลบั้ม Disturbing the peace [1985]
ต่อมาในปี1986 ย้ายมาอยู่กับ David Lee Roth Band ออกอัลบั้ม 2 มาชุดคือ Eat 'em and Smile [1986] และ Skyscraper [1988]หลัง จากนั้นในปี 1989 มาอยู่กับวง White Snake ออกอัลบั้ม Slip of the Tongue แม้ว่าจะมีชื่อมือกีต้าร์ Adrian Vandenberg ร่วมด้วย (และเป็นคนร่วมแต่งเพลงกับ David Coverdale ) แต่ VAI เป็นคนเล่นกีต้าร์ทั้งหมด เนื่องจาก Adrian ประสบอุบัติเหตุต่อมาในปี 1990 ออกอัลบั้มแห่งประวัติศาสตร์ของโลกกีตาร์ในยุค'90ที่มีชื่อว่า Passion and Warfare ซึ่งอัลบั้มนี้เราถือได้ว่า...เป็นการแจ้งเกิดจุติให้ใครหลายๆคนได้รู้จัก เขาในฐานะเทพเจ้ากีตาร์ตนหนึ่งและหลังจากนั้นอีก 3 ปีคือในปี 1993เขาก็ได้ออกอัลบั้มที่ชื่อว่า Sex and Religien และก็มีตามออกมาอยู่เรื่อยๆสำหรับผลงานของ Steve Vai.
เกิดเมื่อ 6 มิถุนายน 1960 ณ.Long Island, New Yorkเริ่ม เรียนกีต้าร์อย่างจริงจังเมื่ออายุ 13 กับ Joe Satriani จากนั้นไปศึกษาด้านดนตรีที่ Berklee School ใน Boston และย้ายมาอยู่ที่ LAในปี 1979 เพื่อเป็นนักดนตรีในวงดนตรีของ Frank Zappa ออกโซโลอัลบั้มแรก Flex-able [1984]และ ในปี 1985เข้าไป แทนที่ Yngwie Malsteenใน AlcaTrazz ซึ่ง มี Graham Bonnet เป็นนักร้องนำ( อดีต นักร้องนำวง RainBow) ออกอัลบั้ม Disturbing the peace [1985]
ต่อมาในปี1986 ย้ายมาอยู่กับ David Lee Roth Band ออกอัลบั้ม 2 มาชุดคือ Eat 'em and Smile [1986] และ Skyscraper [1988]หลัง จากนั้นในปี 1989 มาอยู่กับวง White Snake ออกอัลบั้ม Slip of the Tongue แม้ว่าจะมีชื่อมือกีต้าร์ Adrian Vandenberg ร่วมด้วย (และเป็นคนร่วมแต่งเพลงกับ David Coverdale ) แต่ VAI เป็นคนเล่นกีต้าร์ทั้งหมด เนื่องจาก Adrian ประสบอุบัติเหตุต่อมาในปี 1990 ออกอัลบั้มแห่งประวัติศาสตร์ของโลกกีตาร์ในยุค'90ที่มีชื่อว่า Passion and Warfare ซึ่งอัลบั้มนี้เราถือได้ว่า...เป็นการแจ้งเกิดจุติให้ใครหลายๆคนได้รู้จัก เขาในฐานะเทพเจ้ากีตาร์ตนหนึ่งและหลังจากนั้นอีก 3 ปีคือในปี 1993เขาก็ได้ออกอัลบั้มที่ชื่อว่า Sex and Religien และก็มีตามออกมาอยู่เรื่อยๆสำหรับผลงานของ Steve Vai.
กี ต้าร์แนวRockแบบเมโลดี้สวยงามนอกจากJoe Satrianiแล้วคงจะไม่พลาดผลงานของมือกีต้าร์ระดับเทพผู้นี้
Steve Vai โดดเด่นในฐานะของผู้ช่ำชองในการใช้เทคนิคการเล่นกีต้าร์แนวร็อค เขาเป็นสัญลักษณ์ของการบุกเบิกสไตล์การเล่นแปลกๆและเป็นตัวอย่างที่ดีที่ แสดงให้เห็นว่าการศึกษาดนตรีสามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
Steven Siro Vai หรือที่รู้จักกันว่าSteve Vaiผู้มีอาวุธประจำตัวเป็นกีต้าร์ รวมถึงกีต้าร์เจ็ดสาย
กีต้าร์สามคอ เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน คศ. 1960 ที่ New York เขาเริ่มเล่นกีต้าร์ตอนอายุ 13 ขวบ เพราะได้แรงบันดาลใจจาก Jimi Hendrix , Led Zeppelin และ Alice Cooper หลังจากนั้นไม่นานVai ได้พบกับ Joe Satriani มือกีต้าร์รุ่นพี่ที่โรงเรียน ซึ่งเป็นคนที่เขาไปเรียนกีต้าร์ด้วยในช่วงวัยรุ่นตอนต้น หลังจากจบมัธยม Steve Vaiเรียนต่อที่ Berklee College Of Music ที่ Boston ที่นี่เองที่เขาเริ่มหลงไหลผลงานของ Frank Zappa แล้วแกะเพลงที่ท้าทายที่สุดหลายๆเพลงของ Frank (รวมถึงเพลง Black Page อันโด่งดัง)และส่งไปให้เจ้าตัวดู Frank ประทับใจมากจนเชิญเขาไปร่วมวง ต่อมา Vai ทัวส์ทั่วโลกกับ Zappa ร่วมเล่นในหลายอัลบั้มของ Zappa และสร้างชื่อเสียงขึ้นมาในฐานะมือกีต้าร์ร็อคที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่ง ในแวดวง ต่อมาก็ได้ร่วมงานกับศิลปินมากมายอาทิWhitesnake, Alcatrazz, David Lee Roth และการแสดงสดในนามG3รุ่นแรกร่วมกับJoe Satriani, Eric Johnsonมาแล้ว Steve Vaiได้รับการโหวตเป็นมือกีต้าร์ร็อคยอดเยี่ยมประจำปี 1986 ในนิตยสาร Guitar Player และตลอดมาจนถึงต้นยุค 90 นั้นเขาติดอันดับสูงสุดในการจัดอันดับต่างๆและขึ้นปกนิตยสารกีต้าร์ทุกฉบับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น