Pages

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Pop The Sun

วันนี้เรามาพูดถึงมือกีต้าร์ที่เป็นคนไทยกันบ้างครับ หลังจากที่ได้พูดถึงแต่มือกีต้าร์ที่เป็นคนต่างชาติ ของไทยเราก็มีสุดยอดผีมือเหมือนกัน จะมีใครก็ จักรรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย หรือ Pop The Sun นั้นเอง เรามารู้จักเขากันครับ

Biography of "Pop The Sun"

ชื่อจริง : นาย จักรรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย

ชื่อเล่น : ป๊อบ

เกิดวันที่ : 2 ตุลาคม พ.ศ. 2513

สถานที่เกิด : จังหวัดกรุงเทพ

การศึกษา : ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(ได้ใช้บ้างไม๊ที่เรียนมา ..5..5)

งานหลัก : เล่นและฝึกฝนกีตาร์ แต่งเพลง เป็นโปรดิวเซอร์และ์ ซาวด์เอนจิเนียร์ ์เขียนคอลัมน์ Guitar Man สอนเทคนิคและทฤษฎีเกี่ยวกับการเล่นกีตาร์ในนิตยสาร Overdrive รายเดือน

งานอดิเรก : อ่านหนังสือกีตา์ร์ ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับกีต้าร์ทาง Internet ท่องเที่ยวไปตามเกาะที่มีชายหาดสวยๆ และ เล่นสนุกเกอร์

ประวัติการเล่นการดนตรี

พี่ป๊อบเริ่มจับกีตาร์ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ด้วยแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ญาติผู้ใหญ่แห่งเกาะสมุยซึ่งมีนามว่า "โึ่กเปี๊ยก" ได้จุดชนวน ลากวิญญาณ ดิบแห่งการเล่นกีตาร์ของเขาออกมา ด้วยคำถามที่ว่า "เฮ้ยมีกีตาร์โปร่งอยู่ที่บ้าน ทำไมไม่ฝึก เล่นกันวะ" ตอนนั้นครอบครัว ดวงมณีรัตนชัย ที่ประกอบ ด้วย 3 ใบเถา เปิ้ล ปอน ป๊อบ จึงได้กระโดด ออกมาคว้ากีตาร์ โปร่งเก่าๆ์ที่มีอยู่ตัวเดียว กระชากหัวใจร็อคออกมาฟาดฟัน แย่งความเป็นหนึ่ง ด้วยการ ฝึกฝนการเล่นกีตาร์ในสไตล์ ของตัวเอง แต่เนื่องด้วยเหตุผลที่พี่ป๊อบเป็นคนที่มีี่นิ้วมือสั้นกว่าคนอื่น ผนวกกับพลังใจ ที่ชอบฟังเพลงใน หลายๆ สไตล์ ทุกรูปแบบตั้งแต่สมัยเด็กๆ กับ จิตใจที่แน่วแน่ในการฝึกฝน (โดยส่วนตัวผม อยากจะใส่คำว่า พรสวรรค์ ลงไป ด้วย) จึงทำพี่ป๊อบฝึกฝนหนักกว่าพี่ีๆ และทำให้การฝึกฝนของพี่ป๊อบ ค่อนข้่างรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยวัยเพียง 13 ปี เขาก็สามารถเล่นเพลงร็อค ที่มีการโซโล กีตาร์ที่เรียกว่าไม่ง่าย อย่า์ง Rock Bottom และ Highway Star ได้อย่างไม่ยากเย็น จากวัยนั้นจนกระทั่งเริ่มเข้าเรียน ในระดับอุดม ศึกษา พี่ป๊อบก็ยังคงฝึกฝน การเล่น กีตาร์ของ เขาให้แข็งแกร่งขึ้น ศิลปินกีตาร์ ที่มีสไตล์การเล่นใหม่ๆ อย่างเช่น Michael Schenger, Randy Rhoads, Jake E.Lee, Yngwie J. Malmsteen (และ อีกหลายๆคน เยอะไปหมด) ถือเป็นมือกีตาร์ ที่มี อิทธิพลต่อการเล่นกีตาร์ ของ เขาโดย ตรง

จนกระทั่งเข้าศึกษา ใน มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ในคณะ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ก็ได้เข้าร่วมเล่นดนตรีกับ วงคณะ ในนามวง Force มีชื่อเสียงโด่งดังมีแฟนๆ ติมตามไปดู คอนเสิร์ต ของ Force ทุกที่ที่มีการจัดขึ้น ในขณะที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย พี่ป๊อบก็ยังคงฝึกฝนการเล่นกีตาร์ของ เขา ควบคู่ไปกับการเรียนอย่างขมักเขม้น จากกีตาร์ไฟฟ้าตัวแรกของเขา คือ Maya ที่มี Body สีชมพู (เพ้นท์เอง) ในสไตล์ Racer X กับ คอกีตาร์ของ Kimus ที่ได้ผ่านการ Scallopด้วย มือของเขาเองจาก Workshop รุ่นพี่เพื่อนซี้ นาม บัญชา ไทยประเสริฐ (ทุกวันนี้ ก็คือ Key Man คนสำคัญที่เป็นที่ปรึกษาของพี่ป๊อบทางด้าน Electronic Effects ทั้งหลาย)

จนมาถึงปีที่ 3 ที่เขาได้มีกีตาร์ตัวใหม่ที่มีคันโยกแบบที่เขาอยากได้ มาฝึกฝน มาเป็นของตัวเอง (Steve Vai Jem 777 ลายดอกไม้ ที่พวกเราเห็นจากอัลบั้มหินเหล็กไฟ ชุดที่ 1, ขอขอบคุณ พี่หมู คาไลโดสโคป สำหรับการให้คำปรึกษา และ คำำแนะนำ ในการเลือกซื้อกีตาร์ และช่วยพาไปเลือกกีตาร์ตัวนี้มา) โดยที่กีตาร์ตัวนี้ได้รับการอุปถัมถ์จากคุณพ่อ คุณแม่ ของพี่ป๊อบเอง (พี่ป๊อบ ขอฝากขอบคุณ ท่านมา ณ.ที่นี้ ที่ให้ความเข้าใจ ความอิสระในการตัดสินใจของลูก ในการเลือกทำ สิ่งที่ตนเองรัก พวกเราหวัง เป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นการสนับสนุน ของคุณพ่อ คุณแม่ ต่อลูกๆ ในการเลือก เส้นทางเดินชีวิต ที่เขามุ่งมั่นที่จะค้นหา) ในขณะเรียนๆเล่นๆ อยู่นี่เอง ก็เป็นจุดกำเนิด ของสไตล์การเล่น กีตาร์ของตัวเอง และเพลงที่ แต่งด้วยตัวเองที่ได้รับความนิยมในชุดหินเหล็กไฟ ชุดแรก อย่าง เพื่อเธอ ก่อนจะสาย ก็ได้ถูกแต่งขึ้นในช่วง เวลานี้ ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆอย่าง 4 Tracksและ Custom Built Effects ที่พอจะหาได้ในขณะนั้น

ผ่านพ้นช่วงเวลา 4 ปี กับ 1 ซัมเมอร์ ของชีวิตมหาวิทยาลัย พี่ป๊อบก็เดินทางกลับมากรุงเทพ เพื่อเข้าร่วมเล่นดนตรีที่ได้รับ การทาบทาม จากพี่โป่ง และ พี่รงค์, อดีตนักร้องและมือเบส ของดิโอฬารโปรเจค, ที่กำลังจะฟอร์มวงร็อค วงใหม่ ในระยะเวลาไม่นานกระบวนการ ค้นหามือกีตาร์คู่อีกคน กับมือกลอง ซึ่งก็คือ พี่โตและน้าหมาน ก็เสร็จสมบูรณ์ และ เกิดเป็น วง "หินเหล็กไฟ" (จากการตั้งชื่อวง ของ น้าทิวา่ สาระจูฑะ บ.ก. แแห่งนิตยสารสีสัน) ที่ได้รับความนิยม มีเพลงฮ็อตฮิตติดหูสาวกเพลงร็อค หูเหล็กทั้งหลาย ออกอัลบั้มเพลง 2 ชุด ได้รับการต้อนรับจากแฟน เพลงอย่างอบอ่น จนกระทั่ง จบยุคของหินเหล็กไฟ ก็ได้มีการฟอร์มวงใหม่จาก สามชิกชุดเดิม บางส่วนมาเป็น "เดอะซัน" สร้างผลงานเพลงร็อคในสไตล์ เดอะซัน และ กีตาร์ของป๊อบเดอะซัน ออกอัลบั้มเพลงมา 3 ชุด กับวีดีโอสอน เทคนิคการเล่นกีตาร์ของพี่ป๊อบเองอีกหนึ่งชุด

ในปัจจุบัน ทั้งวง เดอะซัน และ ตัวพี่ป๊อบเอง ก็ยังคงโลดแล่น อยู่ในวงการดนตรีเพลงร็อคเมืองไทย เป็นที่รู้จักกันในนาม วงร็อครุ่นใหญ่ฝีมือเก๋า กับ ในนามมือกีตาร์ฮีโร่ ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่จุดชนวนให้เกิดเด็กๆ มือกีตาร์รุ่นใหม่ๆ ที่มีทั้งพลังและฝีมือสร้างสรรค์ผลงานดนตรีที่มีคุณภาพ เป็นสังคมร็อคที่อบอุ่น อยู่เคียงข้างแฟนเพลงชาวร็อคหูเหล็กเมืองไทยมาจนกระทั่้งทุกวันนี้

ประวัติการเข้าวงการดนตรี

ปี พ.ศ. 2536 เริ่มต้นเข้าวงการดนตรีในนามของวง หินเหล็กไฟ ในตำแหน่งมือกีตาร์โซโล กับ อัลบั้มแรกของวง หินเหล็กไฟ ในอัลบั้มนี้ มีเพลงฮ็อตฮิตจากการแต่งเนื้องร้อง ของพี่โป่ง และ ดนตรีจากพี่โต ที่ทำให้หินเหล็กไฟเป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้ง 7 ย่านน้ำจากพ่อแม่พี่น้อง ไปจนถึง ลูกหลานตัวเล็กๆ ก็ยังร้องกันเป็น คือ "นางแมวยั่วสวาท" และ เพลงที่ส่งผลให้พี่ป๊อบเป็นที่รู้จักกันในนามของมือกีตาร์ รุ่นใหม่ไฟแรง ที่หลายคน จับตามอง คือ เพลง "สู้" และ "ร็อคเกอร์" โดยเฉพาะเพลง "สู้" จัดเป็นเพลงร็อคในสไตล์ นีโอคลาสสิคที่มีลวดลาย และ แนวทางในการโซโลกีตาร์ ที่สวยงาม รวดเร็ว และ บาดใจสาวกหูเหล็กทั้งหลาย นักกีตาร์รุ่นใหม่หลายคนมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเล่นเพลงนี้ให้ได้ และ ก็มีการใช้เพลงนี้เป็น เพลงที่ีเล่นในการประกวด Guitar Contest ที่มีการจัดขึ้นหลายครั้ง

ปี พ.ศ. 2538 ร็อคเพื่อนกัน ระหว่างการรอคอยการออกอัลบั้มชุดใหม่ของ หินเหล็กไฟ ก็มีอัลบั้มคั่นเวลา ที่มีการรวมเพลงของศิลปินร็อค ชื่อดังถึง 3 วง นั่นคือ หินเหล็กไฟ ไฮร็อค แหละ พี่หรั่ง ร็อคเครสตร้า อัลบั้มนี้ก็เป็นการรวมเอาเพลงฮิตของทั้ง 3 ศิลปิน รวมทั้ง เพลงที่แต่งขึ้นมา ใหม่เป็น พิเศษ สำหรับอัลบั้มนี้ นั่นคือ "เพื่อนกัน" และ "สัญญาปีศาจ" ซึ่งเพลง "สัญญาปีศาจ" ก็เป็น เพลงร็อคโดนใจอีกเพลงที่มีแนวทางในการ โซโลกีตาร์ ที่น่าสนใจ เพลงนี้นอกจากจะมีท่วงทำนองแบบร็อคแท้ดั้งเดิมที่แสดงพลังของการเล่นเพนตาโทนิคที่รวดเร็ว แล้วก็ยังมีการผสมผสาน ลูกโซโล่ ในแนวคลาสสิคที่ รวดเร็วและดุดัน ที่ทำให้ชาวร็อค และมือกีต้าร์รุ่นใหม่ทั้งหลายได้ทึ่งในความสามารถที่เชื่อขนมกินได้ของพี่ป๊อบ อีกครั้ง

ปี พ.ศ. 2538 การกลับมาอีกครั้งอย่างอลังการของวงร็อคชั้นแนวหน้าของเมืองไทย กับอัลบั้มที่สะท้อนให้เห็นการพัฒนาทางด้านดนตรี ของพวกเขา ในชุดที่ชื่อว่า คนยุคเหล็ก ดนตรีที่ดุดัน รวมถึงเนื้อร้องที่เข้มข้นขึ้นผนวกกลับความลงตัวของเพลงรักหวานๆในสไตล์ หินเหล็กไฟ ทำให้พวกเค้า กลับมาผงาดบนเวที่เพลงร็อคอีกครั้ง ในชุดนี้มีเพลงร็อคที่มีการโซโลที่น่าสนใจอย่าง "หวาดระแวง" และ "โิอกาส" ที่ยังคงไว้ของการ เล่นกีตาร์ ในสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเองของพี่ป๊อบ, Context และ Groove ที่แสดงให้เห็นถึงตัวโน้ตแต่ละตัวนั้น ได้ผ่านการกลั่นกรองมาจาก มันสมองของพี่ป๊อบ อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ปี พ.ศ. 2539 The Sun 1 หลังจากการแยกตัวไปของสมาชิกหินเหล็กไฟบางส่วน การฟอร์มตัวใหม่จากสมาชิกชุดเก่าส่วนหนึ่ง คือพี่โป่ง พี่ป๊อบ มือกลองชาวฟิลิบปินส์ เลสเตอร์ ซี เอสตาบาน กับ สมาชิกใหม่ มือเบสฝีมือเข้มข้น อย่างพี่ทักษ์ ก็เกิดเป็น วงร็อคพันธุ์ใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ เจนจัดกว่าเดิม อย่าง เดอะซัน และ นี่คือที่มาของ ฉายา ป๊อบ เดอะซัน มาจนทุกวันนี้ ในอัลบั้มเดอะซันชุดแรกนี้ ถือเป็นการ เปิดเกมส์ ลองตลาด เพลงร็อค ในอีก สไตล์ ของสมาชิกในวง เพลงร็อคที่ แสดงถึงความลงตัว ของความหนักแน่นในความเป็นร็อค และ การComposition ของทั้งท่วง ทำนอง เนื้อร้อง และ สไตล์การเล่นกีตาร์ของพี่ป๊อบ ในอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้การกำเนิดของเดอะซันในหัวใจของแฟนเพลงร็อคชาวไทย ดำเนิน ไปได้อย่างไม่ยากเย็น เพลงร็อคในลักษณะ moderate beat แต่หนักหน่วงไปด้วยไลน์กีตาร์ และ โซโลเมโลดี้ที่เน้นอารมณ์ล้วนๆ อย่าง "รักเป็นบาป" ผนวกกับร็อคที่หนักแน่นที่ยังคงไว้แห่งกลิ่นอายของ หินเหล็กไฟ อย่าง "Are you ready to rock?" ทำให้ชื่อของเดอะซันวิ่งขึ้น สู่ตำแน่งวงร็อคชั้นแนวหน้าของเมืองไทยในเวลาต่อมา

ปี พ.ศ. 2540 The Sun 2 เดอะซัน ได้กลับมา้ตอกย้ำความสำเร็จของตัวเองให้ชัดเจนขึ้น จากการ ออก อัลบั้มชุดที่ 2 ตามมา มีชื่อชุดว่า เสือ สิงห์ กระทิง แ์รด โดยในชุดนี้ นอกจากจะคงไว้ซึ่งความเป็น ร็อค ในสไตล์ เดอะซัน ก็ยังมีการเพิ่มเติมสีสันและความสนุกสนานให้กับ Rhythm และ Melody ทำให้เดนตรีในชุดนมีอรรถรสแห่งร็อค และ แดนซ์ ให้แฟนๆได้ทั้งโยคหัว และ เขย่าสะโพกไปพร้อมๆกัน เพลงที่น่าสนใจ ที่มีการโซโล กีตาร์ที่รวดเร็ว (แต่ราบลื่น เหมือนนั่งรถไฟเหาะบนรางผ้าไหม) ตามสไตล์ป๊อบเดอะซัน อย่างเช่น "Playboy" ก็ยังมีการใส่ลูกเล่น เทคนิคการใช้ คันโยก ที่เรียกได้ว่าแปลกหู ชนิดหาฟังจากศิลปินดังๆในอเมริกาก็ยังไม่ง่ายนัก แต่พี่ป๊อบของเราก็ได้ตั้งใจคิดออกมาให้เราฟังกัน เพื่อให้น้องๆ รุ่นหลังๆได้เห็นแนวทางการพัฒนาเทคนิคการเล่นกีตาร์ออกไปให้หลากหลาย

ปี พ.ศ. 2543 The Sun 3 หลังจากหมดสัญญากับ RS Promotion เดอะซัน ก็ได้รับการต้อนรับเข้่าสู่ครอบครัวใหม่คือ ค่ายดนตรี เบเกอรี่มิวสิค กับผลงานชุดที่ 3 ที่มีชื่อว่า ถนนพระอาทิตย์ ผลงานในชุดนี้ ก็ยังคงไว้ซึ่งจุดยืนของร็อคในสไตล์ เดอะซัน ที่มีความหนักแน่น ของทั้ง เนื้อร้อง และดนตรี ผนวกเข้ากับ แนวความคิดในการเล่นกีตาร์ใหม่ๆ ที่ได้มาจากการสั่งสมประสบการณ์ทางด้านดนตรีของพี่ป๊อบ กับ อิทธิพล จากการศึกษา ดนตรีจากมือกีตาร์ รุ่นใหม่ๆ จากทางตะวันตก เข้ามาผสมผสานให้เกิด ทั้งความหลากหลาย และ รักษาไว้ซึ่งความสนุกสนาน แบบ ร็อคไทยๆ ไว ้ จึงได้เกิดเพลงอารมณ์ดี อย่าง "รัสปูติน" และ สนุกสนาน แบบ "Welcome to the party" ขึ้น ส่วนเพลงร็อคในสไตล์อคูสติก หวานๆ แบบOpen Harmony Chord อย่าง "ฉันไม่ใช่" ก็เป็นอีกเพลงที่ทำให้เสน่ห์ของเดอะซัน และสไตล์การเล่นกีตาร์ที่มีหลากหลายรูปแบบของพี่ป๊อบ ได้กำหัวใจ ของแฟนเพลงไว้อีกครั้ง

ปี พ.ศ. 2545 The Olarn Project อัลบั้มรวมฮิตเฉพาะกิจของพี่โอ้ โอฬาร พรหมใจ ที่ตัดสินใจ ชักชวนพี่โป่ง และ เดอะซัน เข้ามา สร้างสรรค์ผลงาน ดนตรีร่วมกัน โดยนำเอาเพลงฮิต ของดิโอฬารโปรเจ็ค มา รีอะเร็นจ์ ใหม่ พร้อมกับ เพิ่มเพลงใหม่ของทั้ง พี่โอ้เอง และ ของ พี่ป๊อบ เข้าไป ทำให้ อัลบั้ม ดิโอฬารคลาสสิคชุดนี้ เป็น อีกอัลบั้มหนึ่ง ที่แฟนๆเพลงร็อคเมืองไทยไม่อยากที่จะพลาดในการเก็บสะสม เพลงที่น่าสนใจ และมีการถามหา วิธีการเล่นกันอยู่เนืองๆ บนWeb Board กีตาร์หลายๆแห่ง อย่าง "เงินบนดาวอังคาร" ก็จัดเป็นเพลงร็อคอีกเพลง ที่มีการนำ เอาสไตล์การเล่นของ ร็อคยุคดั้งเดิม ผสมผสานกับเทคนิคแนวใหม่ ให้ทั้งลูกโซโล และ ริทั่มไลน์ มาทำให้เกิดความแปลกหู น่าติดตาม นอกเหนือจากนี้ การผสมผสาน ระหว่างแนวดนตรีของ ดิโอฬารโปรเจ็ค และ เดอะซัน ก็ทำให้อัลบั้มชุดนี้มีความหลากหลาย และคลาสสิค ดั่งชื่ออัลบั้ม และทำให้แฟนๆเพลงของศิลปินทั้ง 2 กลุ่มเกิดการรวมตัวเป็นกลุ่มแฟนเพลงร็อคกลุ่มใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงพลังของเพลงร็อค กับมิตรภาพของผู้มีหัวใจร็อคด้วยกัน

ปี พ.ศ. 2545 Pop The Sun VCD หลังจากพักงานดนตรีกับอัลบั้มเพลงไปพักใหญ่ๆ ผนวกกับพลังใจของแฟนๆมือกีตาร์พันธุ์ใหม่ ที่อยากจะเห็น และ ถามกันมามากมาย กับ Private Lesson และ Secret ของ ป๊อบเดอะซัน พี่ป๊อบจึงตัดสินใจ ร่วมมือ กับ Tone Project ของ อ.ปราชญ์ แห่ง Prart Music ทำวีดีโอ สอนเล่น กีตาร์ ในสไตล์ ป๊อบ เดอะซัน ขึ้นออกสู่สายตาแฟนเพลงนักกีตาร์รุ่นน้อง ให้ได้ฝึกกันตาม ปรารถนา โดยนอกเหนือ จากการรวบรวม Licks หรือ Exercisesที่พี่ป๊อบเคยใช้ฝึกจนมาเป็นพี่ป๊อบ ทุกวันนี้แล้ว ก็ยัีงได้รวม การสอนเล่น ลูกโซโล เพลงยากๆ ที่หลายคนอยาก จะเล่นได้ อย่างเพลง "สู้" และ "ร็อคเกอร์" ไว้ด้วย อีกทั้งยังรวมไปถึงการแนะนำอุปกรณ์ กีตาร์ และ Effect ที่พี่ป๊อบใช้ ทั้งเบื้องหน้าบนเวทีคอนเสิร์ต และ เบื้องหลังในห้องอัด เอาไว้ให้ น้องๆ ผู้ที่มีใจรัก และ ต้องการ เดินบนถนนเส้นทางดนตรีสายนี้ เอาไว้ศึกษาเป็นแนวทางด้วย ส่วนที่หาดูได้ยากอีกส่วน คงเป็น Feature พิเศษ ที่มีให้ชมกันใน DVD version ที่เป็น ภาพในอดีตของป๊อบ เดอะซัน ตั้งแต่ สมัย เล่นกีตาร์ ตอนเด็กๆ ตอนมหาวิทยาลัย กับ วง Force และ Show "โซโลกีตาร์ผีสิง" จากงาน Short Charge Shock Rock Concert ที่บอกได้เลยว่าหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว กับแฟนพันธุ์แท้ของ ป๊อบ เดอะซัน

ปี พ.ศ. 2549 ก็ได้ออก VCD The Guitar Of POP THE SUN Vol.2เป็นการนำเอาเรื่องราวต่างๆ ใน VCD กีต้าร์ชุดแรก มาขยายความ ทั้งในส่วนของเทคนิค ไม่ว่าจะเป็น Arpeggio, Speed Picking และ Legato ฯลฯ ที่มากกว่างานชิ้นแรก รวมทั้งเพลงที่แฟนๆ ถามถึงจากหลากหลาย อัลบั้ม ตั้งแต่ หิน เหล็ก ไฟ ชุดแรก จนถึง The Sun ชุดล่าสุด และ หิน เหล็ก ไฟ ครบรอบ 10 ปี ที่อธิบาย และสาธิต ทุกแง่มุม

ที่มาจาก : http://popthesunmusic.com/index.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น